มีอยู่หลายครั้งเวลาเดินไปตามที่สาธารณะก็มักจะเห็นคนท้องติดเข็มกลัดที่พุงอยู่บ่อยๆ หรือแม้แต่เวลามาฝากท้องที่รพ. หมอเองก็เห็นบ่อยมากๆจนอดถามไม่ได้ว่า…ติดไปทำไม?
คำตอบส่วนใหญ่ที่มักจะได้ยินจากคุณแม่ก็คือ ป้องกันสิ่งชั่วร้ายไม่ให้เข้ามาสู่ลูกน้อยหรือไม่ก็กลัดไว้เพื่อป้องกันการแท้ง อารมณ์แบบว่ากลัดติดเอาไว้ให้แน่นเป็นเคล็ด ป้องกันไม่ให้ลูกหลุดอะไรอย่างนั้น
แต่ถ้าดูจากเหตุผลจริงๆแล้ว…แน่นอนว่าการกลัดเข็มกลัดนั้นคงไม่เกี่ยวกับการป้องกันสิ่งไม่ดี เพราะถ้าป้องกันได้ คนก็คงกลัดกันทั้งบ้านทั้งเมือง ทั้งชายหญิง ทั้งหนุ่มสาวจนคนแก่กันไปหมดแล้ว ถูกไหมครับ หรือถ้าป้องกันการแท้งได้จริง เวลามาฝากครรภ์ หมอก็คงให้เข็มกลัดติดกันไปทุกคนแล้ว ไม่ต้องมาฉีดยากันแท้งหรอกครับ
เวลาคนท้องอ่อนๆช่วง 3 เดือนแรก ท้องก็ยังเล็กอยู่มาก สาวๆบางคนท้องแรกยังผอมๆอยู่ ก็ยิ่งแทบมองไม่ออกเลยว่าท้อง การมีสัญลักษณ์อะไรบางอย่างให้คนเห็นได้ง่ายๆว่าผู้หญิงคนนี้ท้องอยู่ก็จะเป็นประโยชน์ ช่วยเตือนให้คนรอบข้างอย่าเดินเข้ามาชน หรือจะทำอะไรก็ควรเสียสละหรือเกรงใจคนท้องบ้าง เช่น ให้ที่นั่งบน BTS หรือในเวลาเร่งรีบคนเดินเบียดกันไปมาก็อย่าเร่งให้คนท้องเดินเร็ว เดี๋ยวคนท้องจะล้มได้ ซึ่งถ้าเกิดอุบัติเหตุ กระทบกระเทือนลูกในท้องขึ้นมาก็อาจทำให้แท้งได้
สัญลักษณ์ที่หาง่ายที่สุดก็คงจะเป็นเข็มกลัดที่พุงคุณแม่ที่แหละ ราคาก็ไม่แพง แถมเป็นตำแหน่งที่คนสังเกตเห็นชัดเจนที่สุดอีกต่างหาก ก็เลยเป็นที่มาของการติดเข็มกลัดที่พุงของคนท้อง
จริงๆแล้วการติดเข็มกลัดไม่ได้มีข้อเสียแต่อย่างใด สิ่งเดียวที่ต้องระวังก็คือ เข็มแหลมๆอาจทิ่มพุงได้ ซึ่งคงเจ็บน่าดู มิหนำซ้ำถ้าเข็มกลัดสกปรกหรือเป็นสนิมด้วยยิ่งแล้วใหญ่ ต้องฉีดยาป้องกันบาดทะยักเพิ่มเข้าไปอีก
ถามว่าไม่ติดได้ไหม? กรณีที่ท้องเริ่มใหญ่พุงเริ่มออก คนรอบข้างเริ่มสังเกตได้ง่ายแล้วว่าเราตั้งท้อง ก็ไม่จำเป็นต้องติดแล้วครับ
โดยสรุปแล้วความคิดหรือความเชื่อของใครก็บังคับกันไม่ได้นะครับ อยากติดหรือไม่ติดเข็มกลัดก็แล้วแต่คนเลย แต่สิ่งที่อยากฝากไว้สำหรับคนที่ท้องอยู่คือการดูแลตัวเอง การทานอาหารที่มีประโยชน์ ไม่กินแป้งหรือของหวานมากๆ การออกกำลังกายอย่างพอดี และการพักผ่อนให้เพียงพอ สิ่งเหล่านี้ต่างหากที่ช่วยให้ลูกน้อยแข็งแรงและปลอดภัยนะครับ