สมัยนี้เวลาใครท้องขึ้นมา คนรอบข้างก็มักจะถามว่า “ฝากครรภ์กับหมอคนไหน?” จนเป็นเรื่องปกติที่คนท้องแทบทุกคนต้องฝากครรภ์ แล้วประโยชน์ของการฝากครรภ์คืออะไร…เพียงแค่มาหาหมอแล้วรับยาบำรุงกลับบ้านรึเปล่า? ถ้าแค่นี้…ก็ซื้อยาบำรุงจากร้านขายยากินเองก็ได้ ไม่เห็นต้องมารอหมอให้เสียเวลาดีไหม?
จริงๆแล้วการฝากครรภ์มีรายละเอียดซับซ้อนกว่าแค่การรับยาบำรุงครรภ์ครับ คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่าคนท้องเป็นคนปกติสุขภาพแข็งแรง เพียงแต่มีเด็กอยู่ในท้อง…แต่ในความเป็นจริงนั้นกลับตรงกันข้าม คนท้องสำหรับหมอนั้นคือคนที่อ่อนแอมากๆเลยครับ…อ่อนแอยังไง?
- ปริมาณเลือดในร่างกายคนท้องจะเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 1.5 เท่าของตอนปกติ ทำให้หัวใจต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อออกแรงสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายและลูกน้อยให้ทั่วถึง ดังนั้นเวลาคนท้องออกแรงนิดหน่อยก็จะเหนื่อยแล้ว ยิ่งถ้าใครที่เป็นโรคหัวใจแต่ไม่เคยตรวจพบมาก่อน พอท้องก็จะแสดงอาการขึ้นมา ถ้าเป็นรุนแรงมากๆก็อาจเสียชีวิตเลยก็ได้ครับ
- เป็นเบาหวานได้ง่ายกว่าคนปกติ จากฮอร์โมนการตั้งครรภ์ที่สูงปรี๊ดทำให้คนท้องมีความอยากกินอาหารอย่างบ้าคลั่ง เห็นอะไรๆก็อยากกินโดยเฉพาะของหวาน ขนม น้ำหวาน กินไปมากๆตับอ่อนหลั่งอินซูลินออกมาไม่เพียงพอก็เลยกลายเป็นเบาหวานตอนท้อง ก็ส่งผลให้ลูกตัวใหญ่มากเกินไป คลอดยากลำบาก หรือถ้าคลอดได้ก็เสี่ยงตกเลือดเลยนะครับ
- ต้องการสารอาหารมากกว่าคนปกติ เช่น ธาตุเหล็ก แคลเซียม ไอโอดีน เป็นต้น บางคนทานอาหารไม่เพียงพอก็ขาดสารอาหารทำให้คุณแม่เลือดจางหรือกระดูกบางลงได้ แพทย์จึงต้องประเมินภาวะโภชนการเป็นช่วงๆว่าคุณแม่ได้รับสารอาหารเพียงพอหรือไม่?
- นอกจากนี้ยังมีภาวะอีกมากมายที่อาจเกิดขึ้นได้ช่วงท้ายๆของการตั้งครรภ์ เช่น ครรภ์เป็นพิษ ทารกน้ำหนักน้อย น้ำคร่ำน้อย สายสะดือพันคอทารก รกเกาะต่ำ ซึ่งทั้งหมดล้วนแต่เป็นอันตรายต่อแม่และลูกในท้องทั้งสิ้น
ดังนั้นประโยชน์ของการฝากครรภ์ หมอก็จะคอยตรวจหาความผิดปกติต่างๆในร่างกายคุณแม่และลูกน้อยว่ามีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นหรือไม่ ถ้าตรวจพบความผิดปกติอย่างใดอย่างหนึ่งก็จะได้รีบทำการรักษาให้ทันท่วงทีก่อนที่โรคนั้นจะส่งผลให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของคุณแม่และลูกน้อยยังไงละครับ
เห็นไหมครับว่าการฝากครรภ์เป็นสิ่งสำคัญ ไม่ควรมองข้ามและควรฝากครรภ์ตั้งแต่ท้องอ่อนๆนะครับ เพื่อลูกน้อยและคุณแม่จะได้มีสุขภาพแข็งแรงทั้งคู่ครับ