เมื่อผู้หญิงอายุมากขึ้นโครงสร้างต่างๆในร่างกายก็ย่อมมีความหย่อนคล้อยไปตามกาลเวลา ถ้าเป็นผิวหนังที่หย่อนอาจจะไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นอวัยวะที่สำคัญของผู้หญิง เช่น มดลูกหย่อน กระบังลมหย่อน แบบนี้ก็เป็นเรื่องแน่นอนสิครับ
ฟังแบบนี้แล้วสาวๆหลายคนยังไม่ต้องตกใจนะครับ มดลูก/กระบังลมหย่อนไม่ใช่โรคที่อันตรายถึงชีวิต เพียงแต่ทำให้เกิดความรำคาญก็เท่านั้น บางคนอาจจะสงสัยว่ามดลูกหย่อนกับกระบังลมหย่อนเหมือนหรือแตกต่างกันยังไง?
ถ้าจะให้เรียกแบบกว้างๆหมอแนะนำให้เรียกว่า กระบังลมหย่อนดีกว่าครับ ที่มาของคำว่ากระบังลมหย่อนนั้น ไม่ใช่กระบังลมที่เราใช้ในการหายใจนะครับ แต่ชื่อเต็มๆคือกระบังลมเชิงกราน (Pelvic diaphragm) หย่อนครับ กระบังลมเชิงกรานเป็นกล้ามเนื้อลักษณะเป็นแผ่นๆที่อยู่ในอุ้งเชิงกรานของผู้หญิง คอยรองรับอวัยวะในอุ้งเชิงกราน เช่น มดลูก กระเพาะปัสสาวะ ลำไส้ ให้อยู่ในตำแหน่งปกติ ไม่ยื่นหรือหย่อนเข้ามาในช่องคลอดและไม่ให้หลุดออกมาข้างนอกร่างกายนั่นเองครับ ดังนั้นถ้าพูดว่ากระบังลมหย่อนแสดงว่าอาจจะมีมดลูก กระเพาะปัสสาวะหรือลำไส้อย่างใดอย่างหนึ่งที่หย่อนออกมาหรือรวมทุกอย่างเลยก็ได้ครับ
สาเหตุของกระบังลมหย่อนเกิดจากการมีแรงดันไปกดทับกล้ามเนื้อกระบังลมให้เกิดการบาดเจ็บเรื้อรังติดต่อกันเป็นเวลานานๆ เช่น การยกของหนักบ่อยๆ ท้องผูกบ่อยๆ ไอจามเรื้อรัง เป็นต้นครับ บางคนอาจจะเคยได้ยินว่าการคลอดบุตรทำให้เป็นโรคนี้ได้ หมอต้องบอกว่ามีส่วนนะครับแต่ก็ไม่ใช่เป็นปัจจัยหลักเมื่อเทียบกับการยกของหนัก ท้องผูกและไอเรื้อรังนะครับ
อาการแรกๆคนไข้จะรู้สึกมีก้อนตุงๆในช่องคลอดมักเป็นช่วงที่ออกแรงเบ่งหรือยกของหนัก ก้อนจะหายกลับเข้าไปเองได้ แต่ถ้าปล่อยไว้นานๆไม่ได้รักษาแล้วเป็นมากขึ้น ที่นี้ก่อนจะยื่นออกมาข้างนอกช่องคลอด ต้องใช้นิ้วดันก้อนกลับเข้าไป ถ้าเป็นมากๆก็ดันไม่เข้าเลยครับ
การรักษากระบังลมหย่อนมี 2 วิธีหลักๆด้วยกันครับ คือการใส่ห่วงพยุงช่องคลอดและการผ่าตัด ถ้าถามหมอว่าวิธีไหนง่ายและปลอดภัยที่สุดก็คงหนีไม่พ้นการใส่ห่วงพยุงช่องคลอดครับ
“ห่วงพยุงช่องคลอด” เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทำจากซิลิโคน นำไว้ใส่เข้าไปในช่องคลอดเพื่อดันกระบังหย่อนให้กลับขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งปกติ ขึ้นชื่อว่าห่วงแล้วใครหลายๆคนก็คงจะคิดถึงลักษณะที่เป็นวงๆใช่ไหมครับ ซึ่งก็ถูกต้องแต่ไม่ทั้งหมดนะครับ จริงๆแล้วห่วงพยุงช่องคลอดมีหลากหลายรูปแบบ แบบที่เป็นวงๆก็มี ส่วนแบบลักษณะอื่นก็มี บางแบบก็เหมือนโดนัท บางแบบก็เหมือนลูกบาศก์ นอกจากจะมีหลายแบบแล้วยังมีหลายขนาดด้วยเพื่อให้แพทย์เลือกใช้ให้เหมาะสมแก่ผู้ป่วยแต่ละคน บางคนใช้แบบวงไม่ได้ ก็ต้องใช้แบบโดนัทแทน เป็นต้นครับ
การใส่ห่วงพยุงช่องคลอดเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูง ใส่ห่วงแล้วอาการที่มีก้อนยื่นก็หายไปทันที จากที่คนไข้มีอาการมานานหลายปี พอมาพบหมอใส่ห่วงให้ปุ๊ป ก้อนนั้นก็หายเข้าไปปั๊ปเลย ไม่ต้องรอคิวผ่าตัดหลายๆเดือน ไม่ต้องไปเสี่ยงผ่าตัดให้อันตรายต่อชีวิตอีกด้วยครับ ความมหัศจรรย์อีกอย่างหนึ่งของการใส่ห่วงนี้ก็คือ คนไข้จะไม่รู้สึกเลยว่ามีอะไรอยู่ในช่องคลอดครับ บางคนหมอใส่แล้วให้ไปเดินเล่นแล้วกลับมาหาหมอยังไม่รู้เลยว่าหมอทำยังไง ทำไมก้อนมันหายไปแล้ว
ถ้าคนไข้ใส่แล้วถูกใจ ไม่รู้สึกเจ็บ ลองไปถ่ายปัสสาวะแล้วก็ไม่หลุด แบบนี้แสดงว่าห่วงที่หมอเลือกให้เป็นห่วงที่เหมาะสมกับคนไข้แล้วครับ หมอก็จะสอนวิธีการใส่และถอดล้างให้เพื่อที่คนไข้จะกลับไปดูแลเองได้ หลักการง่ายๆครับให้ถอดล้างทุกวันก่อนนอน เช็ดให้แห้งเก็บในที่มิดชิด พอตื่นเช้ามาก็ใส่เข้าไปในช่องคลอด แล้วก็ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ส่วนขั้นตอนการใส่และถอดก็ไม่ยากครับ เดี๋ยวคุณหมอสอนให้เอง หลังจากนั้นหมอก็จะนัดคนไข้มาติดตามอาการอีกประมาณ 2-4 สัปดาห์ครับ แต่ถ้าคนไข้มีอาการผิดปกติ เช่น มีเลือดออก ตกขาวเหม็น แบบนี้ต้องมาพบคุณหมอก่อนนัดนะครับ
ถึงแม้ห่วงพยุงช่องคลอดจะมีข้อดีมากมายขนาดนี้แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถรักษาด้วยวิธีนี้ได้นะครับ บางคนอาจจะมีช่องคลอดสั้นมาก บางคนมีช่องคลอดกว้างหรือแคบเกินไป แบบนี้ก็อาจจะทำให้ใส่ห่วงไม่ได้ ถ้ากรณีที่ใส่ไม่ได้คุณหมอก็จะแนะนำให้รักษาโดยการผ่าตัดแทนครับ ดังนั้นถ้าใครที่สามารถใส่ห่วงได้หมอแนะนำให้ลองใส่ดูก่อนนะครับ ถ้าใส่ไม่ได้จริงๆค่อยผ่าตัดครับ