อาการเลือดออกทางช่องคลอดหลังมีเพศสัมพันธ์ถือเป็นอาการหนึ่งที่ทำให้สาวๆหลายคนกังวลใจว่าจะเป็นโรคอะไรที่รุนแรง หรืออันตรายมากไหม จะเป็นมะเร็งรึป่าว?
จริงๆแล้วมีโรคมากมายที่ทำให้เกิดอาการเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ได้และอาจจะไม่ใช่มะเร็งเสมอไปนะครับ เรียงตามโรคที่พบบ่อยๆ เช่น
- ปากมดลูกอักเสบ เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด ส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ รักษาได้ไม่ยากครับ อาจจะทานยาหรือฉีดยาขึ้นกับการพิจารณาของแพทย์ รักษาแล้วก็หายขาดได้ครับ
- ติ่งเนื้อที่ปากมดลูก เป็นสาเหตุที่พบรองลงมา ส่วนใหญ่ติ่งเนื้อจะมีขนาดไม่ใหญ่ครับ ประมาณ 0.5-1 ซม. แพทย์จะสามารถตรวจพบและวินิจฉัยได้ตอนตรวจภายใน รักษาโดยการตัดชิ้นเนื้อออกซึ่งใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีและไม่เจ็บ แล้วส่งตรวจชิ้นเนื้อเพื่อยืนยันผลครับ
- ช่องคลอดแห้งมากๆ ทำให้เกิดเลือดออกจากการเสียดสีในช่วงที่มีเพศสัมพันธ์ก็ได้ครับ ส่วนใหญ่มักจะพบในสตรีวัยใกล้หมดปจดที่ผนังช่องคลอดเริ่มบางลง แต่ในวัยสาวๆก็สามารถพบได้เช่นกันครับ แนะนำให้เพิ่มระยะเล้าโลมนานขึ้นเพื่อให้มีน้ำหล่อลื่น และอาจจะใช้เจลหล่อลื่นร่วมด้วยก็ได้ครับ
- มะเร็งปากมดลูก เป็นโรคที่พบไม่บ่อยเมื่อเทียบกับโรคอื่น แต่ถือเป็นโรคที่อันตรายที่สุดเนื่องจากถ้าตรวจพบได้ช้า อาจทำให้รักษาไม่ทันหรือสายเกินไปครับ ในทางตรงกันข้ามถ้าตรวจพบตั้งแต่เนิ่นๆจะสามารถรักษาให้หายได้เลย สาเหตุเกิดจากการติดเชื้อไวรัส HPV ทำให้เซลล์บริเวณปากมดลูกมีการเจริญที่ผิดปกติไป
จะเห็นได้ว่ามีหลายโรคที่ทำให้มีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ได้นะครับ มีทั้งโรคที่ร้ายแรงและไม่ร้ายแรง แต่เพื่อความปลอดภัยแนะนำว่าสาวๆคนไหนมีอาการแบบนี้ ให้รีบมาพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษาจะส่งผลดีต่อตัวเองนะครับ