ตรวจภายในกับอัลตราซาวด์… ต่างกันยังไง? เลือกตรวจแบบไหนให้เหมาะกับอาการ

เมื่อมีอาการผิดปกติ ควรตรวจภายในหรืออัลตราซาวด์?

“เกิดเป็นผู้หญิงแท้จริงแสนลำบาก” คำนี้คงไม่เกินจริงสำหรับสาวๆ ที่ต้องเผชิญกับอาการผิดปกติทางนรีเวช เช่น
✅ ปวดท้องน้อย
✅ ปวดประจำเดือนมากผิดปกติ
✅ เลือดออกผิดปกติหลังมีเพศสัมพันธ์
✅ ตกขาวมีกลิ่น หรือคันช่องคลอด
เมื่อมีอาการเหล่านี้ สิ่งที่ไม่ควรทำคือ รอให้อาการหายเองเพราะอาจทำให้โรคลุกลามได้ ทางที่ดีที่สุดคือ เข้าพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย
แต่คำถามคือ “ควรตรวจภายในหรืออัลตราซาวด์?” ซึ่งทั้งสองวิธีมีความแตกต่างกันและใช้วินิจฉัยโรคที่แตกต่างกัน

1. ตรวจภายในคืออะไร? ใช้ตรวจอะไรได้บ้าง?

✅ วิธีการตรวจภายใน : แพทย์จะใช้เครื่องมือปราศจากเชื้อ (Speculum) สอดเข้าไปในช่องคลอดเพื่อตรวจดู

🔹 ช่องคลอดและปากมดลูก ว่ามีรอยโรค ติ่งเนื้อหรือการอักเสบหรือไม่

🔹 ตกขาวผิดปกติเพื่อตรวจหาเชื้อโรค เช่น เชื้อรา หรือแบคทีเรีย

🔹 คลำมดลูกและรังไข่เพื่อตรวจหาก้อนเนื้องอกหรือภาวะอักเสบ

✅ ตรวจภายในเหมาะกับใคร?

 • คนที่มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด

 • คนที่มีตกขาวมีกลิ่น หรือคันช่องคลอด

 • คนที่ต้องการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก (Pap Smear)

 • คนที่มีปวดท้องน้อยโดยสงสัยว่ามีการอักเสบของมดลูกหรือปีกมดลูก

ข้อจำกัดของการตรวจภายใน

 • หากมีก้อนเนื้องอกหรือถุงน้ำรังไข่ขนาดเล็กมาก (ต่ำกว่า 4-5 ซม.) แพทย์อาจคลำไม่พบ จำเป็นต้องใช้อัลตราซาวด์ช่วย

2. อัลตราซาวด์คืออะไร? ตรวจอะไรได้บ้าง?

✅ วิธีการตรวจอัลตราซาวด์ : อัลตราซาวด์เป็นการใช้ คลื่นเสียงความถี่สูง ส่งผ่านเข้าไปในร่างกายเพื่อดูภาพภายในอุ้งเชิงกราน โดยมี 2 วิธี

🔹 อัลตราซาวด์ทางหน้าท้อง (Transabdominal Ultrasound)  – ใช้ตรวจดูมดลูกและรังไข่ ก่อนการตรวจคนไข้ต้องดื่มน้ำให้กระเพาะปัสสาวะเต็มจนรู้สึกปวดปัสสาวะมากๆ ถึงจะตรวจเห็นอวัยวะภายในได้ชัดเจน

🔹 อัลตราซาวด์ทางช่องคลอด (Transvaginal Ultrasound) – ใช้หัวตรวจขนาดเล็กสอดเข้าไปในช่องคลอด ให้ภาพชัดเจนกว่าแบบหน้าท้อง ก่อนการตรวจต้องปัสสาวะออกให้หมดถึงจะตรวจแล้วเห็นอวัยวะภายในได้ชัดเจน

✅ อัลตราซาวด์เหมาะกับใคร?

 • คนที่สงสัยว่ามีเนื้องอกมดลูกหรือถุงน้ำรังไข่

 • คนที่ปวดท้องน้อยหรือปวดประจำเดือนรุนแรง

 • คนที่ต้องการติดตามภาวะมีบุตรยากหรือเช็กความผิดปกติของมดลูก

ข้อจำกัดของอัลตราซาวด์

 • ไม่สามารถตรวจดูรอยโรคในช่องคลอดและปากมดลูกได้

 • หากเป็น ภาวะติดเชื้อในช่องคลอด หรือมะเร็งปากมดลูก อัลตราซาวด์อาจไม่ช่วยให้วินิจฉัยได้

3.ตรวจภายใน vs อัลตราซาวด์ แบบไหนเหมาะกับคุณ?

4. จำเป็นต้องตรวจทั้งสองอย่างพร้อมกันไหม?

ในบางกรณีที่อาการซับซ้อนหรือยังไม่ชัดเจน แพทย์อาจแนะนำให้ตรวจทั้งตรวจภายในและอัลตราซาวด์ เพื่อความแม่นยำที่สุด

ตัวอย่างอาการที่อาจต้องตรวจทั้งสองอย่าง

 • มีเลือดออกผิดปกติ + ปวดท้องน้อย

 • ปวดประจำเดือนมาก + ตกขาวผิดปกติ

 • เคยมีเนื้องอกมดลูก และต้องติดตามผล

5. ถ้ายังไม่แน่ใจว่าต้องตรวจอะไร? ให้แพทย์ช่วยตัดสินใจ!

หากคนไข้ยังไม่แน่ใจว่าอาการของเราควรตรวจภายในหรืออัลตราซาวด์ ไม่ต้องกังวลครับ เพียงแจ้งแพทย์ถึงอาการที่คุณเป็น แพทย์จะช่วยแนะนำให้ว่าควรตรวจแบบไหนเพื่อให้การวินิจฉัยแม่นยำที่สุด

หากคุณต้องการตรวจภายในหรือตรวจอัลตราซาวด์ สามารถจองคิวกับแพทย์เฉพาะทางที่ธนวรรธน์ คลินิกของเราได้เลยครับ เพื่อให้มั่นใจว่าคุณได้รับการดูแลที่ดีที่สุด

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

เราให้ความสำคัญถึงความเป็นส่วนตัวของคุณ ข้อมูลของคุณจะถูกเก็บเพื่อใช้ในบริการทางการแพทย์ของคลินิกเท่านั้น โปรดกดปุ่ม accept เพื่อยอมรับเงื่อนไขตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือ PDPA