การตั้งครรภ์ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญหนึ่งในชีวิตของผู้หญิง เนื่องจากเป็นจุดเริ่มต้นชีวิตใหม่ของเจ้าตัวเล็กที่กำลังจะกลายมาเป็นสมาชิกในครอบครัว และแน่นอนว่าคุณแม่ทุกคนก็อยากให้ลูกน้อยคลอดออกมาสมบูรณ์แข็งแรงครบ 32 ถูกต้องไหมครับ
แต่ในชีวิตจริงนั้นการตั้งครรภ์ไม่ได้สวยงามเหมือนในละครเสมอไปนะครับ เพราะมีบางครั้งที่เป็นการตั้งครรภ์ผิดปกติ ทารกมีความพิการเกิดขึ้น แบบนี้ก็คงไม่มีคุณแม่คนไหนอยากเจอใช่ไหมครับ
แล้วจะทำยังไงให้การตั้งครรภ์ของเราเป็นไปได้อย่างปกติและลูกน้อยคลอดออกมาได้สมบูรณ์แข็งแรง คำตอบก็คือ ต้องฝากครรภ์แต่เนิ่นๆยังไงละครับ เพราะการฝากครรภ์ตั้งแต่อายุครรภ์น้อยๆจะทำให้คุณหมอตรวจพบความผิดปกติของทารกและรักษาได้ทันท่วงที หรือถ้าตรวจพบความเสี่ยงก็จะได้รีบหาทางป้องกันไว้ได้เลยครับ
การฝากครรภ์นั้นสามารถทำได้ทันทีตั้งแต่ทราบว่าตั้งครรภ์ หรือถ้าไม่สะดวกฝากตอนนั้นจริงๆก็สามารถรอได้แต่อายุครรภ์ไม่ควรเกิน 3 เดือนนะครับ ยิ่งฝากช้าทั้งคุณแม่และคุณลูกก็ยิ่งมีความเสี่ยงอันตราย แล้วอันตรายที่ว่ามันมีอะไรบ้าง? เพื่อความเข้าใจง่ายขอแบ่งอธิบายตามไตรมาสของการตั้งครรภ์นะครับ
ไตรมาสที่ 1 (อายุครรภ์ 1-3 เดือน) : ช่วงนี้เป็นช่วงตั้งครรภ์อ่อนๆ ความผิดปกติที่ต้องระวังคือ ท้องนอกมดลูก ซึ่งถือเป็นภาวะที่อันตรายสำหรับตัวคุณแม่มากๆ เนื่องจากหากวินิจฉัยและได้รับการรักษาช้า ท้องนอกมดลูกอาจจะแตกทำให้มีเลือดออกในท้องมากจนคุณแม่ช็อคและเสียชีวิตได้ การรักษาหลักๆคือต้องผ่าตัดครับ อย่างไรก็ตามถ้าตรวจพบแต่เนิ่นๆ ท้องนอกมดลูกยังมีขนาดเล็กก็สามารถรักษาโดยการฉีดยาให้หายได้ครับ อาการของท้องนอกมีหลากหลายครับ เช่น ปวดท้องน้อย เลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด เป็นต้น หรือบางคนอาจจะไม่มีอาการอะไรเลยก็ได้ครับ ส่วนภาวะอื่นๆที่ต้องระวังในไตรมาสนี้ เช่น แท้ง ท้องลม ทารกหยุดการเจริญเติบโต ก็สามารถพบได้ครับ
ไตรมาสที่ 2 (อายุครรภ์ 4-6 เดือน) : ช่วงนี้เป็นช่วงที่ทารกมีการเจริญของอวัยวะครบทุกส่วนแล้ว และแพทย์สามารถอัลตร้าซาวด์เห็นได้ชัดเจน กรณีที่อัลตราซาวด์พบความผิดปกติของทารกในครรภ์ เช่น มีภาวะบวมน้ำ หัวใจโต อวัยวะไม่สมบูรณ์ แพทย์จะทำการตรวจหาสาเหตุและรักษาได้ทันครับ
ไตรมาสที่ 3 (อายุครรภ์ 7-9 เดือน) ช่วงนี้เป็นช่วงโค้งสุดท้ายของการตั้งครรภซึ่งคุณแม่จำเป็นต้องได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีภาวะหลายอย่างที่อาจเกิดขึ้นได้ และอาจทำให้เป็นอันตรายต่อตัวคุณแม่และทารก เช่น การเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด ถุงน้ำคร่ำแตกก่อนกำหนด เบาหวานขณะตั้งครรภ์ ครรภ์เป็นพิษ ทารกตัวเล็กและน้ำคร่ำน้อย สายสะดือพันคอ เป็นต้น การที่มาฝากครรภ์จะช่วยให้คุณหมอตรวจพบภาวะเหล่านี้ได้ตั้งแต่เนิ่นๆและรักษาได้ทันท่วงที ช่วยให้คุณแม่และคุณลูกปลอดภัยทั้งคู่นะครับ
เห็นไหมครับว่ายิ่งคุณแม่มาฝากครรภ์เร็วเท่าไหร่ ก็จะช่วยให้ลูกน้อยมีโอกาสคลอดออกมาสุขภาพแข็งแรงมากขึ้นเท่านั้นนะครับ ใครรู้ตัวว่าตั้งครรภ์แนะนำให้รีบมาฝากครรภ์ได้เลยนะครับ